ประเทศฝรั่งเศสถือเป็นประเทศหนึ่งที่คนทั่วโลกย่อมรู้จักกันเป็นอย่างดี ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาฝรั่งเศสเองถือว่ามีอิทธิพลต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกในหลากหลายเรือง แม้กระทั่งในปัจจุบันเองประเทศนี้ก็ยังคงเป็นประเทศที่มีความน่าสนใจอยู่อย่างไม่เสื่อมคลาย ทั้งในด้านของศิลปะ วัฒนธรรม การท่องเที่ยว และอื่นๆ อีกมากมาย ทว่าเรื่องของประวัติศาสตร์การปกครองฝรั่งเศสก็เป็นสิ่งที่มีความน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเช่นเดียวกัน หลายคนคงอยากรู้ว่าตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาฝรั่งเศสมีรูปแบบการปกครองในลักษณะใดบ้าง ลองมาทำความเข้าใจกันได้
ประวัติศาสตร์ด้านการปกครองในฝรั่งเศส
แต่เดิมชาวฝรั่งเศสสืบเชื้อสายมาจากพวกโกล (Gaul) ตังแต่ยุคศตวรรษที่ 1 ก่อนจะมาตกอยู่ภายใต้การปกครองของพวกแฟรงก์ ซึ่งก็เป็นชื่อของฝรั่งเศสในปัจจุบันนี้นั่นเอง มีการปกครองด้วยระบอบกษัตริย์ที่เริ่มต้นบันทึกกันเอาไว้ตั้งแต่ยุคศตวรรษที่ 5 ตอนที่พระเจ้าชาร์เลอมาญได้ตั้งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์เมื่อปี ค.ศ. 843 ซึ่งก็ได้มีอาณาเขตควบรวมไปถึงฝรั่งเศสกับเออรมันด้วย ราชสำนักของฝรั่งเศสได้ก้าวขึ้นสู่จุดสูงสุดช่วงรัชสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 เป็นยุคที่ฝรั่งเศสได้ชื่อว่ามีประชากรมากที่สุดในทวีปยุโรป รวมไปถึงยังเป็นประเทศที่มีอำนาจทางการเมือง เศรษฐกิจ ศิลปะและวัฒนธรรมอีกด้วย ฝรั่งเศสในระบบการปกครองแบบกษัตริย์จนมาถึงยุคพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 ปี 1792 ก็ได้มีการเปลี่ยนมาใช้การปกครองระบอบสาธารณรัฐ จากนั้น นโปเลียน โบนาปาร์ค ก็ได้มีการแต่งตั้งตัวเองเป็นจักรพรรดิพร้อมกับรุกรานประเทศอื่นๆ ในยุโรป แต่พอเกิดความพ่ายแพ้ฝรั่งเศสก็ได้กลับมาใช้ระบอบการปกครองแบบสาธารณรัฐดังเดิม ทำให้เรียกยุคนี้ว่า ยุคสาธารณรัฐที่สอง แต่ก็อยู่ได้อีกไม่นานเมื่อ หลุยส์ นโปเลียน ผู้เป็นหลานได้ยึดประเทศและแต่งตั้งให้เป็นจักรวรรดิที่ 2 อีกครั้ง ช่วงต้นศตวรรษที่ 17 ถึง ทศวรรษที่ 60 ถือเป็นยุคล่าอาณานิคม จักรวรรดิฝรั่งเศสจัดได้ว่ามีพื้นที่มหาศาล ยุคทศวรรษที่ 20 ถือเป็นยุคที่มีพื้นที่ใหญ่ที่สุด แต่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 พวกเขาบอบช้ำอย่างมาก
ปัจจุบันฝรั่งเศสใช้การปกครองในระบอบประชาธิปไตยแบบมีทั้งประธานาธิบดี และนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรียกว่ายุคสาธารณรัฐที่ห้า ช่วงทศวรรษที่ผ่านมาฝรั่งเศสกับเยอรมันเองพยายามเป็นผู้นำการรวมตัวจัดตั้งประชาคมยุโรป ก่อนพัฒนาเป็นสหภาพยุโรปในปัจจุบัน ส่วนรัฐธรรมนูญแห่งฝรั่งเศสได้มีการประกาศใช้เมื่อวันที่ 28 กันยายน 1958 โดยผ่านการลงมติ ซึ่งสาระสำคัญของรัฐธรรมนูญฉบับนั้นก็คือการเพิ่มอำนาจให้กับประธานาธิบดีของฝรั่งเศส ถือว่าเป็นอีกประเทศที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานและมีความน่าสนใจเป็นอย่างมากเกี่ยวกับเรื่องของระบบการปกครองตั้งแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน